
📑 ภาระภาษีที่ “ฟรีแลนซ์” ต้องทำความเข้าใจ
การทำงานในฐานะฟรีแลนซ์หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระนั้น มีลักษณะรายได้ที่ไม่คงที่และไม่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบนายจ้าง-ลูกจ้างแบบงานประจำ ทำให้ภาระภาษีที่เกี่ยวข้องมีความแตกต่างและซับซ้อนกว่าพนักงานบริษัท โดยหลัก ๆ แล้ว ฟรีแลนซ์อาจต้องรับผิดชอบภาษี 3 ประเภทหลัก ขึ้นอยู่กับรูปแบบและขนาดของรายได้
เป็นภาษีหลักที่ฟรีแลนซ์ทุกคนต้องให้ความสำคัญ เพราะจัดเก็บจากผู้มีรายได้จากการประกอบอาชีพ เงินได้ของฟรีแลนซ์จะถูกจัดกลุ่มตามประเภทของงานที่ทำ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะอยู่ภายใต้หมวดหมู่เงินได้พึงประเมิน 3 กลุ่มหลัก คือ:
ภาษีนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฟรีแลนซ์ทุกคน แต่จะเกี่ยวข้องกับผู้ที่มีขนาดธุรกิจใหญ่ขึ้น VAT คือภาษีที่จัดเก็บจากมูลค่าของการซื้อขายสินค้าหรือบริการภายในประเทศในอัตรา 7% และจะเกิดขึ้นกับฟรีแลนซ์ที่ มีรายได้จากการขายสินค้าหรือการให้บริการ เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี หรือมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยสมัครใจ หากรายได้เข้าเกณฑ์นี้ ฟรีแลนซ์มีหน้าที่ต้องจดทะเบียน VAT และเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จากลูกค้า แล้วนำส่งกรมสรรพากร
ภาษีประเภทนี้เป็นภาษีที่จัดเก็บจากการประกอบกิจการบางประเภทที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ โดยมักจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการเงิน ทรัพย์สิน หรือการดำเนินกิจการที่เทียบเท่าธนาคารพาณิชย์ ตัวอย่างกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ เช่น ธุรกิจการธนาคาร, ธุรกิจเงินทุน, หลักทรัพย์, และเครดิตฟองซิเอร์, ธุรกิจการรับประกันชีวิต, ธุรกิจการรับจำนำ, การประกอบกิจการคล้ายธนาคารพาณิชย์ (เช่น การให้กู้ยืม, การค้ำประกัน, การแลกเปลี่ยนเงินตรา) และการขายอสังหาริมทรัพย์ในเชิงพาณิชย์หรือเพื่อหากำไร ดังนั้น ฟรีแลนซ์ที่ทำงานสายสร้างสรรค์หรือวิชาชีพทั่วไปมักไม่เกี่ยวข้องกับภาษีประเภทนี้
📞 TaxTok AIMC ให้คำปรึกษาภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้เลย! เรามีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาเรื่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ฟรี
☎ โทร: 02-264-0900 กด 3 (จันทร์–ศุกร์ 09.00–15.30 น.)
📧 อีเมล: taxtok@aimc.or.th
#TaxTok #AIMC #ภาษีบุคคลธรรมดา #ภาษีฟรีแลนซ์ #เข้าใจภาษีง่ายนิดเดียว
#TaxTokAIMC #AIMCK #AIMCKnowledge #ภาษีไม่ยากถ้าถามAIMC